• มีระบบการกระจายความร้อนของอากาศภายในตู้ แบบ APT.lineâ(Advanced Preheating Chamber Technology) ชนิด Air jacket system โดยมีพัดลมติดตั้งอยู่ระหว่างโพรงอากาศ
• ควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ +7องศาเซลเซียส เหนืออุณหภูมิห้องถึง +60 องศาเซลเซียสมีระบบฆ่าเชื้อภายในตู้ โดยใช้ความร้อนสูงที่อุณหภูมิไม่น้อยกว่า 180 องศาเซลเซียส (Hot- air sterilization)
• มีระบบป้องกันกรณีอุณหภูมิภายในตู้สูงเกิน (Safety device) คลาส 3.1 ตามมาตรฐาน DIN 12880

• ระบบการหมุนเวียนของอากาศภายในตู้เป็นแบบ APT.Line
• ควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่ 5 องศาเซลเซียสเหนืออุณหภูมิห้อง ถึง 300 องศาเซลเซียส
• การหมุนเวียนของอากาศภายในตู้อบความร้อนแบบใช้พัดลม (Forced Convection)
• ควบคุมการทำงานด้วยระบบ Micropressor PID ชนิด MS-Controller สามารถตั้งเวลาในการทำงานได้ตั้งแต่ 0 – 99 ชั่วโมง หรือเลือกให้ตู้อบทำงานอย่างต่อเนื่อง
• มีระบบรักษาความปลอดภัย เมื่ออุณหภูมิภายในตู้สูงเกินจากค่าที่ตั้งไว้ใช้งาน Class 2 (DIN 12880) พร้อมสัญญาณเตือนแบบแสง
• มีชั้นวาง 2 ชั้นชนิด Chorme Plate เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

• ระบบการหมุนเวียนของอากาศภายในตู้เป็นแบบ APT.Line™
• ควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 5 ºC เหนืออุณหภูมิห้องถึง 300 ºC
• ควบคุมการทำงานด้วยระบบ Microprocessor PID-control และแสดงผลเป็นตัวเลขแบบ LED
• สามารถปรับระดับความเร็วของพัดลมภายในตู้อบได้ตั้งแต่ 0-100%
• มี Safety device class 2 ตามมาตรฐาน DIN 12880

• ระบบการกระจายความร้อนภายในตู้อบความร้อนเป็นแบบ APT.line™
• ควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่ 5 องศาเซลเซียส เหนืออุณหภูมิห้อง ถึง 300 องศาเซลเซียส
• ควบคุมการทำงานด้วยระบบ Micropressor PID ชนิด MP-Controller สามารถตั้งโปรแกรมการทำงานได้ 2 โปรแกรม โดยแต่ละโปรแกรมสามารถตั้งขั้นตอน การทำงานได้ 10 ขั้นตอน หรือ สามารถเปลี่ยนเป็น 1 โปรแกรมการทำงาน 20 ขั้นตอน
• สามารถปรับระดับความเร็วของพัดลมภายในตู้อบได้ตั้งแต่ 0-100%
• มีชั้นวาง 2 ชั้นชนิด Chorme Plate เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

• ระบบการกระจายความร้อนภายในตู้อบความร้อนเป็นแบบ APT.line
• ควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่ -5 องศาเซลเซียส ถึง 100 องศาเซลเซียส
• ควบคุมการทำงานด้วยระบบ Micropressor PID ชนิด MP-Controller สามารถตั้งโปรแกรมการทำงานได้ 2 โปรแกรม โดยแต่ละโปรแกรมสามารถตั้งขั้นตอน การทำงานได้ 10 ขั้นตอน หรือ สามารถเปลี่ยนเป็น 1 โปรแกรมการทำงาน 20 ขั้นตอน
• สามารถปรับระดับความเร็วของพัดลมภายในตู้อบได้ตั้งแต่ 0-100%
• ประตูชั้นในเป็นกระจกใส
• มีชั้นวาง 2 ชั้นชนิด Stainless Steel เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

• ระบบการกระจายความร้อนภายในตู้อบความร้อนเป็นแบบ APT.line™
• สามารถทำอุณหภูมิได้ในช่วง 0 ถึง 70 องศาเซลเซียส (ในกรณีที่ไม่มีการควบคุมความชื้น)
• ทำอุณหภูมิได้ในช่วง 10 ถึง 70 องศาเซลเซียส (ในกรณีที่มีการควบคุมความชื้น)
• สามารถควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 %RH
• เป็นตู้ควบคุมสภาพแวดล้อมแบบคงที่เหมาะสำหรับการทดสอบความคงที่ของผลิตภัณฑ์ สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ได้ตามมาตรฐาน ICH guideline Q1A

• ระบบการกระจายความร้อนภายในตู้อบความร้อนเป็นแบบ APT.line™
• สามารถทำอุณหภูมิได้ในช่วง -10 ถึง 100 องศาเซลเซียส (ในกรณีที่ไม่มีการควบคุมความชื้น)
• ทำอุณหภูมิได้ในช่วง 10 ถึง 90 องศาเซลเซียส (ในกรณีที่มีการควบคุมความชื้น)
• สามารถควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 90 %RH
• มีมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอุณหภูมิ อ้างถึงมาตรฐาน DIN 12880 Safety device class 3.1 ซึ่งสามารถแสดงการเตือนได้ในรูปแบบเสียง (Buzzer)

• ระบบการทำอุณหภูมิเป็นแบบ Peltier Cooling System และมีการกระจายความร้อนและเย็นผ่านผนังและช่องว่างในระบบ APT.Line™ ทำให้อุณหภูมิที่ผ่านเข้าสู่ภายในตู้มีความสม่ำเสมอกัน
• ควบคุมอุณหภูมิได้ในช่วง 4องศาเซลเซียส ถึง 100 องศาเซลเซียส
• มี Safety device class 3.1 ตามมาตรฐาน DIN 12880
• ประตูภายในทำจากกระจกนิรภัย
• มีชั้นวาง Stainless steel จำนวน 2 ชั้น

• ระบบการหมุนเวียนของอากาศภายในตู้เป็นแบบ APT.Line™
• ควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 5 ºC เหนืออุณหภูมิห้องถึง 300 ºC
• ระบบการหมุนเวียนของอากาศเพื่อช่วยระบายอากาศภายในตู้โดยใช้พัดลม (Forced convection) สามารถปรับระดับความเร็วได้ 0-100%
• สามารถตั้งโปรแกรมได้ 25 โปรแกรม โดยแต่ละโปรแกรมสามารถตั้งขั้นตอนการทำงานได้ 100 ขั้นตอน และเก็บขั้นตอนการทำงานได้สูงสุด 500 ขั้นตอน
• ชั้นวางชนิด Chrome-Plated จำนวน 2 ชั้น

• ระบบการหมุนเวียนของอากาศภายในตู้เป็นแบบ APT.Line
• ตู้อบสุญญากาศชนิดป้องกันความปลอดภัย ควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 15ºC ถึง 250ºC
• เกจ์วัดแรงดันอนาล็อก ( ความแตกต่างระหว่างความดันภายในห้องแสดงและความดันบรรยากาศ )

เครื่องสามารถทำการวิเคราะห์ทั้งปริมาณ (Quantitative) และชนิด (Qualitative) ของกรดอะมิโน ได้สูงสุด 56 ชนิด โดยใช้เทคนิคลิควิดโครมาโตกราฟี แบบแลกเปลี่ยนประจุ (Liquid ion exchange chromatography) และเทคนิคการตรวจวัดสีของสารอนุพันธ์กรดอะมิโนกับนินไฮดริน (Ninhydrin) หลังจากผ่านการแยกในคอลัมน์ (Post column) ซึ่งมีระบบการทำงานอย่างอัตโนมัติ และควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์